สปอยล์ The Veil ตอนที่ 7
จีฮยอกถูกควบคุมตัวอยู่ที่โรงพยาบาลร้างแห่งหนึ่ง เขาไม่ยอมให้ใครเข้าเยี่ยมแม้แต่เจอี เขาใช้เวลาคิดทบทวนและพยายามเชื่อมโยงบุคคลต่างๆ ที่น่าสงสัย ชางชอนอูถูกฆ่าตายอย่างโหดเหี้ยมเพราะองค์กรจับได้ว่าเขาทรยศ เอ็นไอเอสได้รับภาพต้นฉบับจากกล้องวงจรปิดจากบุคคลปริศนาขณะที่ซูยอนถูกยิงเพื่อพิสูจน์ความบริสุทธิ์ให้จีฮยอก โดจินซุกขอสืบสวนคดีการตายของชางชอนอูให้เสร็จภายในสองอาทิตย์เพราะเขาเคยเป็นอดีตเจ้าหน้าที่ของเอ็นไอเอสและเธอเชื่อว่าเกี่ยวกับการฆาตกรรมซูยอน หากว่าไม่สำเร็จ โดจินซุกขอรับผิดชอบด้วยการลาออก ขณะที่อีอินฮวานคิดว่าชางชอนอูถูกฆ่าตายเพราะการล้างแค้นของแก๊งหัวหยาง
ฮาดงกยอนไปเยี่ยมจีฮยอกในวันครบ49วันที่ซูยอนตายเพื่อถามว่าเกิดอะไรขึ้นกันแน่กับซูยอน จีฮยอกไม่ตอบเพราะรู้ดีว่าคังพิลโฮส่งมาถาม นอกจากนั้นเขายังพูดเรื่องการตายของชางชอนอูและถามดงกยอนว่าเขากำลังปิดบังอะไรอยู่ ดงกยอนแปลกใจที่จีฮยอกรู้เรื่องชางชอนอูจึงได้รู้จากหมอว่ายูเจอีคือคนที่มาหาจีฮยอกบ่อยที่สุดและคงบอกเรื่องนี้กับจีฮยอก
จีฮยอกออกจากโรงพยาบาลแห่งนั้นและไปหาเจอี จึงรู้ว่าเธอไปเยี่ยมเขาบ่อยๆ ตามคำสั่งของคังพิลโฮแต่ไม่ได้เข้าพบ เพื่อแลกกับข้อมูลของพ่อที่คังพิลโฮบอกว่ายังมีชีวิตอยู่ในเกาหลี แต่ภาพที่เธอเห็นนั้นไม่ใช่ใบหน้าของพ่อ ยกเว้นรอยแผลเป็นที่ข้อมือซึ่งเธอจำได้ พิลโฮบอกว่าอาจมีการเปลี่ยนแปลงใบหน้าจึงไม่สามารถยืนยันตัวตนที่แท้จริงได้
จีฮยอกเข้าใจผิดว่าเจอีคือคนที่ปล่อยภาพจากกล้องวงจรปิดให้กับเอ็นไอเอส จากนั้นเขาก็ขอความช่วยเหลือจากเธอเพราะต้องการสืบเรื่องของชางชอนอู จีฮยอกแน่ใจว่าคังพิลโฮเกี่ยวข้องกับองค์กรซังมูเฮแต่ไม่รู้ว่าองค์กรนี้ต้องการอะไรกันแน่ คังพิลโฮเตือนจีฮยอกเรื่ององค์กรซังมูเฮ เพราะเขาอาจจะตายเพราะความสงสัยของตัวเอง
เจอีไปที่บ้านของชางชอนอูเพื่อหาเบาะแสเพิ่มเติมเกี่ยวกับองค์กรซังมูเฮและชายปริศนาที่นั่งหันหลังในภาพซึ่งจีฮยอกสงสัยว่าอาจจะเป็นแบคโมซา เจอีพบอุปกรณ์ของชางชอนอูสำหรับส่องสารยูวี ขณะที่จีฮยอกไปหาคิมฮันซูที่เคยทำงานในโครงการดีปเฟคเพื่อถามว่าหัวหน้าใหญ่ของซังมูเฮเป็นใคร แต่คิมฮันซูบอกว่าคนในองค์กรซังมูเฮมีอยู่ทั่วทุกหนแห่งและไม่เคยรู้จักตัวตนหรือเห็นหน้ากัน พวกเขาใช้เครื่องพีดีเอในการส่งข้อความติตดต่อสื่อสารในรัศมีไม่เกินหนึ่งร้อยเมตร จากนั้นจีฮยอกก็ยึดเครื่องพีดีเอของคิมฮันซูไปด้วย
เจอีพบข้อมูลว่าชางชอนอูเคยเข้าร่วมโครงการทดลองยา “ซิป” ซึ่งเป็นโครงการภายในของบริษัทที่ชื่อว่าแทจินเซลไบโอ เพื่อพัฒนายารักษาโรค PTSD หรือสภาวะอาการป่วยทางจิต จีฮยอกจำได้ว่าหมอคิมยอจินเคยบอกว่าเขาก็ได้รับยานี้เช่นกัน จึงทำให้ความทรงจำหายไปบางช่วง จีฮยอกได้รับข้อความจากเครื่องพีดีเอว่าความจริงอยู่ระหว่าง 4 ราชาสวรรค์ แต่ในรัศมีหนึ่งร้อยเมตรนั้น เขาไม่พบว่าใครคือคนส่งข้อความ
จากรอยสักตามลำตัวของศพชางชอนอู เจอีพบสารยูวีในนั้นและมีสัญลักษณ์คล้ายกับคิวอาร์โค้ด จีฮยอกขอให้โดจินซุกติดอุปกรณ์ดักฟังที่โทรศัพท์ของเจอี เขาจึงรู้ว่าตอนนี้เธอปฏิเสธที่จะช่วยคังพิลโฮอีกต่อไปและเธอก็ไม่ใช่คนที่ส่งภาพจากกล้องวงจรปิดให้เอ็นไอเอส
สัญลักษณ์ที่เจอีค้นพบคือรหัสการจัดประเภทโรคหายากที่ชื่อว่าไคสลอนด์ซินโดรมที่ทำให้ผิวและกระดูกอ่อนแข็งตัว จากนั้นจีฮยอกและเจอีจึงช่วยกันสืบจากประวัติคนไข้ชอนพยองอิล เมื่อไปที่โรงพยาบาลแทจินและเห็นพิรุธของพนักงาน พวกเขาจึงตรวจสอบแบบอาคารและพบว่าอาคารหลังนี้มีการปรับปรุงชั้นใต้ดินซึ่งไม่ปรากฏในแบบพิมพ์เขียวและเป็นชั้นที่ซ่อนอยู่ระหว่างชั้นอื่น เจอีแอบเข้าไปในลิฟต์ส่งของและจับเวลาของลิฟต์ที่ผ่านแต่ละชั้นและมีอยู่ชั้นหนึ่งที่ใช้เวลาต่างจากชั้นอื่น เธอจึงแน่ใจว่าต้องมีชั้นที่ซ่อนอยู่จริงๆ หลังจากนั้นเจอีก็เห็นเจ้าหน้าที่คนหนึ่งใช้คีย์การ์ดและกดรหัสบนปุ่มลิฟต์เพื่อไปที่ชั้นนั้น
จีฮยอกเพิ่งรู้ว่าหมอคิมยอจินแอบนำยา“ซิป”ออกไประหว่างการพัฒนาเพื่อนำมาให้เขาตามคำสั่งของฮาดงกยองซึ่งเล่าความจริงให้ฟังว่าเขาทำทุกอย่างตามคำสั่งของจีฮยอกตั้งแต่เมื่อหนึ่งปีก่อนที่เสิ่นหยาง
ฮาดงกยอนคือคนปล่อยไฟล์ต้นฉบับภาพจากกล้องวงจรปิดและให้ข้อมูลรหัสโปรเจกต์ดีปเฟคกับเจอี และเขาก็เป็นคนติดต่อเจ้าหน้าที่ชายฝั่งเมื่อรู้ว่าจีฮยอกกลับมา ดงกยอนคือคนที่ช่วยจีฮยอกทุกอย่างและไม่ได้ชั่วอย่างที่จีฮยอกคิด
เจอีลอบเข้าไปที่โรงพยาบาลแทจินเพื่อช่วยชอนพยองอิลออกมาและส่งข้อความบอกจีฮยอก หลังจากนั้นโทรศัพท์ก็ไม่มีสัญญาณอีก ขณะที่เจอีพาชอนพยองอิลออกมานั้น เธอพบแบคโมซาที่ขู่เอาชีวิตก่อนที่เขาจะพาชอนพยองอิลขึ้นรถตู้ไป เมื่อจีฮยอกมาถึงจึงขับรถไล่ล่าและได้รับข้อความขู่จากเครื่องพีดีเออยู่เป็นระยะ ชอนพยองอิลถูกยิงตายต่อหน้า จากนั้นแบคโมซาก็โยนระเบิดใส่รถของจีฮยอก จีฮยอกจึงพาเจอีกระโดดหนีออกมาและสลบไป แต่เจอีที่ยังมีสติอยู่นั้น เห็นแบคโมซาที่ถือปืนและเดินตรงมาที่เธอ เจอีมองรอยแผลเป็นที่ข้อมือของแบคโมซาและสบตาเขา หลังจากนั้นเสียงปืนก็ดังขึ้น