สปอยล์ Vincenzo ตอนที่ 4
ผู้เช่าทุกคนและลูกความที่ทนายยูชานเคยช่วยเหลือต่างก็อาลัยกับการจากไปของเขา ส่วนวินเชนโซอาการสาหัสและยังไม่ได้สติ ยาอาร์ดี90ของเภสัชกรรมบาเบลได้รับการอนุมัติจาก อย. และจะออกวางจำหน่ายในไม่ช้านี้ ฮงชายองตัดสินใจปิดสำนักงานทนายความฟางข้าวของพ่อและไปเยี่ยมวินเชนโซ เธอไม่เชื่อว่าเป็นแค่อุบัติเหตุธรรมดา จึงคิดจะทำอะไรสักอย่าง แต่ยังจับต้นชนปลายไม่ถูกเพราะไม่มีหลักฐานอะไรเลย วินเชนโซ่ออกจากโรงพยาบาลและไปเยี่ยมหลุมศพทนายยูชาน เขาไม่เห็นด้วยที่ชายองจะสืบเรื่องอุบัติเหตุของพ่อและบอกว่ามันจะไม่มีอะไรเปลี่ยน
ศพของนักวิจัยยูมินชอลถูกพบอยู่ที่ริมหาดแห่งหนึ่ง ซึ่งเจ้าหน้าที่ระบุว่าเป็นการฆ่าตัวตาย ฮงชายองโทรหานักสืบคนหนึ่งเพื่อให้เขาสืบเรื่องบางอย่างจากข้อมูลที่เธอมี
วินเชนโซ่กลับไปที่ตึกคึมกาพลาซ่าและต้องการพักผ่อน ในขณะที่ผู้เช่าทุกคนถามถึงเรื่องตึกใหม่ที่เขารับปากว่าจะให้ทุกคนไปอยู่ฟรีๆ ขณะที่โต้เถียงกันอยู่นั้นพัคซอกโดยื่นข้อเสนอให้ผู้เช่าว่าพวกเขาจะได้ค่าชดเชยหากยินยอมให้รื้อตึก ฮงชายองยื่นใบลาออก เพราะเชื่อว่าสำนักงานอูซังและบาเบลมีส่วนรู้เห็นกับการตายของยูมินชอลและพ่อของเธอ แม้หัวหน้าฮันซึงฮยอกจะคัดค้าน แต่ชเวมยองฮีกลับดีใจที่ชายองลาออกซะได้และขู่ไม่ให้เธอกลับมาที่นี่อีก ฮันซึงฮยอกเริ่มสงสัยพฤติกรรมของชเวมยองฮี จางจุนอูเด็กฝึกงานของชายองอาสาที่จะเป็นสายสืบให้เธอ แม้ว่าเธอจะลาออกไปแล้วก็ตาม
วินเชนโซ่ไม่พอใจที่รู้ข่าวว่ายาอาร์ดี90ของบาเบลได้รับการอนุมัติและออกวางจำหน่าย เขาจึงย้อนไปที่ร้านซึ่งเกิดอุบัติเหตุเพื่อหาหลักฐานบางอย่าง จากนั้นจึงโทรขอความช่วยเหลือจากประธานโจยองอุนที่กำลังรักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาล
ประธานจางฮันซอตกใจมากเมื่อเห็นเข็มฉีดยาจำนวนมากปักอยู่ที่หมอนบนเตียงของเขา ชเวมยองฮีสงสัยว่าเป็นฝีมือของฮงชายอง
ชายองเปิดสำนักงานฟางข้าวของพ่ออีกครั้งและตั้งใจจะเป็นทนายความที่กัดไม่ปล่อย โดยจะสานงานต่อจากพ่อเรื่องการยื่นฟ้องร้องตามกฎหมายคุ้มครองผู้เช่า
ชายองถูกควบคุมตัวอยู่ที่สถานีตำรวจทั้งคืน เพราะตกเป็นผู้ต้องสงสัยข่มขู่ประธานจาง วินเชนโซอ้างว่าเป็นทนายส่วนตัวของชายองและนำภาพจากกล้องวงจรปิดมาให้ตำรวจเพื่อเป็นหลักฐานว่าเธออยู่ที่บ้านทั้งคืนตามที่ให้ปากคำ หลังจากชายองได้รับการปล่อยตัวแล้ว วินเชนโซ่ยอมรับว่าเป็นฝีมือของเขาเองและขอโทษที่ทำให้เธอต้องเดือดร้อน แต่เขาทำไปเพราะความโมโหประธานจางแห่งบาเบล
วินเชนโซ่ขอให้เธอปิดสำนักงานฟางข้าว และอย่าไปเกี่ยวข้องกับบาเบลหรือสำนักงานอูซังอีก แต่ชายองปฏิเสธคำแนะนำของเขา วินเชนโซ่เล่าว่ายูมินชอลโทรหาพ่อของเธอก่อนที่จะเกิดอุบัติเหตุ เขาจึงเพิ่งรู้ว่ายูมินชอลและพ่อของเธอเกี่ยวข้องกัน และต่อให้รู้ว่ามีใครบางคนต้องการฆ่าสองคนนี้ แต่ก็ไม่มีหลักฐานใด เขาย้ำกับชายองว่าเธอไม่มีทางชนะบาเบลหรืออูซังได้
ชายองขอมีส่วนร่วมในการทำงานของวินเชนโซ่โดยยื่นข้อเสนอว่าเธอจะเอาตึกคึมกาพลาซ่ากลับมาให้ได้ เพราะรู้ว่าวินเชนโซ่ต้องการตึกนี้มาก จากนั้นพวกเขาก็ไปหาผู้ต้องหาอีชุงอิลที่ขับรถชนพ่อของเธอ ซึ่งเขาอ้างว่าเบรกแตก แต่วินเชนโซ่ขู่ให้พูดความจริง ไม่เช่นนั้นคืนนี้เขาจะต้องตายในคุก เขาจึงยอมรับว่าหัวหน้าพโยฮยอกพิลเป็นคนสั่งให้ขับรถชนทนายฮงยูชาน โดยยื่นข้อเสนอว่าสำนักงานอูซังจะช่วยลดโทษจากคดีเดิมให้แก่เขา และยังมีคนที่มีอำนาจเหนือกว่าหัวหน้าพโย ซึ่งเขาเองก็ไม่รู้ว่าเป็นใคร เมื่อผู้คุมโทรรายงานชเวมยองฮีว่าอีชุงอิลให้ข้อมูลกับวินเชนโซ่และชายอง เธอจึงสั่งเก็บอีชุงอิล
วินเชนโซ่สามารถหาเบาะแสพโยฮยอกพิลและลูกน้องได้ จากนั้นเขาก็จัดฉากว่าฆ่าพวกเขาทิ้ง และส่งรูปไปให้ชเวมยองฮีดู เพื่อขู่ให้เธอออกมายอมรับผิดในสิ่งที่ทำ และกู้คืนเกียรติให้แก่ทนายฮงยูชานและชายอง
วินเชนโซ่และชายอง และคนที่ทนายยูชานเคยช่วยเหลือไว้ ร่วมมือกันปลอมตัวเป็นพนักงานฆ่าเชื้อ เข้าไปวางเพลิงคลังเก็บวัตถุดิบอาร์ดี90ของบาเบลได้สำเร็จ ตามเจตนารมณ์ที่ทนายยูชานเคยตั้งใจไว้
ขณะที่ประธานจางฮันซอกำลังดูคลังสินค้าที่กำลังมอดไหม้อยู่นั้น ชายที่เขาเกรงกลัวและเรียกว่าลูกพี่ก็ได้ปรากฏตรงหน้า เขาผู้นั้นก็คือจางจุนอูที่เด็กฝึกงานของชายองนั่นเอง..