สปอยล์ Vincenzo ตอนที่ 9
ชายองและวินเชนโซ่วางแผนการเพื่อหาประธานตัวจริงของบาเบล โดยใช้ชื่อเรียกว่า “บาโบ” โอกยองจาพาวินเชนโซ่ไปฝากเลี้ยงที่โบสถ์ในปี 1993 ซึ่งเธอเริ่มป่วยเป็นโรคมะเร็ง
ผอ.กิลจงมุนฉีกสัญญากับบาเบลและขอความคุ้มครองจากอัยการจองอินกุก จากนั้นเขาก็โทรไปขู่จางจุนอูให้โอนเงินให้เขาสามสิบล้านดอลล่าร์เพื่อออกนอกประเทศ ไม่เช่นนั้นเขาจะเปิดเผยต่ออัยการว่าประธานบาเบลตัวจริงคือใครและเรื่องที่จางจุนอูเคยฆ่าพ่อตัวเอง จางจุนอูไม่พอใจจึงอ้างว่าต้องใช้เวลาสองสามวันเพื่อฟอกเงินก่อน
เพื่อจะหาประธานตัวจริงของบาเบล ชายองจึงหาข้อมูลประวัติของจางฮันซอ ซึ่งมีพี่ชายชื่อจางฮันซอก และไปเรียนต่อที่อเมริกาใช้ชื่อว่า เฮนรี่ จาง หลังจากเรียนจบ เขาก็ใช้ชีวิตอยู่ที่นั่น โดยไม่เคยกลับมาเกาหลี แม้แต่งานศพพ่อของตัวเอง
โอกยองจาดีใจเมื่อรู้ว่าวินเชนโซ่และชายองช่วยจัดการฮวังมินซองจนสำเร็จ แม้ว่าเธอรู้สึกเกรงใจที่วินเชนโซ่ออกค่ารักษาพยาบาลให้ แต่เธอก็รู้สึกอบอุ่นทุกครั้งที่ได้เจอเขา
ถึงแม้ว่าบาเบลร่วมเซ็นสัญญากับธนาคารชินกวังแล้ว แต่ธนาคารดงอิลและแทซานก็ไม่ยอมร่วมลงทุนด้วย เพราะเรื่องที่ฮงชายองป่าวประกาศต่อหน้านักข่าวในวันเซ็นสัญญา ทำให้บาเบลเสื่อมเสียชื่อเสียง จุนอูจึงสั่งฮันซอให้ไปพบอธิบดีอัยการฮวังจินแท
ฮันซอพร้อมทั้งฮันซึงฮยอกและชเวมยองฮี ไปร่วมรับประทานอาหารกับอธิบดีฮวังและหัวหน้าอัยการซออุงโฮ แต่พวกเขาไม่ยอมอ่อนข้อให้จางฮันซอที่มาในฐานะประธาน และบอกว่าบาเบลจะต้องทำทุกอย่างภายใต้สัญญาเท่านั้น มิเช่นนั้นเขาจะจับบาเบลเข้าคุกได้ทุกเมื่อ จุนอูซึ่งดักฟังอยู่เกิดความไม่พอใจ จึงสั่งให้ฮันซอลักพาตัวอธิบดีฮวังกับหัวหน้าอัยการซออุงโฮไปสั่งสอนเล็กน้อย
ขณะที่ชายองและวินเชนโซ่ไปกินเลี้ยงกับครอบครัวเหยื่อเภสัชกรรมบาเบล ห้องของวินเชนโซ่ถูกคนร้ายเข้ามารื้อค้น แต่ผู้จัดการโรงจำนำอีชอลอุคและยอนจีภรรยาของเขาช่วยกันต่อสู้จนคนร้ายหนีไป
ครอบครัวของเหยื่อทุกคนนัดกันว่าจะไปปิคนิกที่จินโดในสัปดาห์หน้า ก่อนแยกย้ายกันกลับจากร้านอาหาร วินเชนโซ่สังเกตเห็นรถคันหนึ่งจอดซุ่มดูอยู่ เขาจึงจำทะเบียนไว้ เมื่อส่งชายองถึงบ้าน และเห็นรถคันเดิมเขาจึงรีบเข้าไปช่วยชายอง ขณะที่เธอกำลังต่อสู้กับคนร้ายที่บุกเข้ามาในบ้าน ในคืนนั้นชายองจึงไปอาศัยนอนที่ห้องของวินเชนโซ่ พวกเขาเชื่อว่าเป็นฝีมือของบาเบล
จางฮันซอจับอธิบดีฮวังและหัวหน้าอัยการซอ มัดไว้กับเก้าอี้ เพื่อเป็นการสั่งสอนและข่มขู่เพียงเล็กน้อยเท่านั้น ในขณะที่ทุกคนไม่คาดคิด จู่ๆจางจุนอูที่สวมชุดและหน้ากากฮอกกี้ ก็เข้ามาฟาดซออุงโฮอย่างโหดเหี้ยมจนเสียชีวิตต่อหน้าทุกคน อธิบดีฮวังจึงร้องขอชีวิตและจะยอมทำตามทุกอย่าง เพราะจุนอูขู่ว่าจะฆ่าลูกชายของเขาที่อยู่อิตาลี จากนั้นจุนอูก็สั่งฮันซอให้เพิ่มจำนวนบอดี้การ์ด เพราะฮันซอคือจุดอ่อนของเขา ที่สามารถสะกดรอยตามได้โดยง่าย
เช้าวันต่อมา เมื่อเห็นข่าวหัวหน้าอัยการซออุงโฮเสียชีวิตจากอุบัติเหตุเมาแล้วขับ วินเชนโซ่แน่ใจว่าเป็นฝีมือของบาเบล และชายองก็เชื่อว่าต่อจากนี้จะต้องมีคนบาดเจ็บอีกเยอะ จางจุนอูส่งคนไปสืบประวัติของวินเชนโซ่ที่ประเทศอิตาลี
เมื่อวินเชนโซ่ได้ข้อมูลม่านตาของประธานหวังเฉาหลินจากประธานโจแล้ว เขาจึงคิดหาทางย้ายนักบวชออกจากวัดนานยัก โดยเสนอว่าจะหาวัดอื่นที่สะดวกสบายและอากาศดีกว่านี้ให้ แต่ทว่าหลวงพ่อยืนกรานที่จะอยู่ต่อเพื่อช่วยดูแลคึมกาพลาซ่า ซอมีรีแอบฟังพวกเขาคุยกัน จึงคิดว่าทองคำต้องอยู่ภายในวัดแห่งนี้แน่ๆ
จางจุนอูบังคับให้อธิบดีฮวังจัดการตรวจสอบธนาคารดงอิลและแทซาน ต่อมาทั้งสองธนาคารจึงต้องยอมร่วมลงทุนกับบาเบล ผู้เช่าทุกคนในตึกคึมกาพลาซ่ายอมร่วมมือกันเพื่อหาทองคำให้เจอ โดยมีเงื่อนไขว่าจะเฉลี่ยส่วนแบ่งให้เท่ากันทุกคน
จางจุนอูทำข้อตกลงกับบริษัทคู่ค้าในอเมริกา เพื่อทำให้ประเทศเกาหลีเป็นสวรรค์ของนักเสพยา จากนั้นจึงเพิ่มจำนวนการผลิตยาอาร์ดียู 90
อัยการจองอินกุกร่วมมือกับชายองและวินเชนโซ่เพื่อโค่นล้มบาเบลให้ได้ ต่อมา ผอ.กิลจงมุนเปลี่ยนใจไปเข้ากับบาเบลอีกครั้งและเริ่มปฏิเสธข้อกล่าวหาของอัยการอินกุกทีละข้อ วินเชนโซ่และชายองจึงวางแผนปลอมเป็นนักฆ่าจากบาเบลเพื่อเข้าไปข่มขู่ให้กิลจงมุนสารภาพออกมาเอง แตทว่าในคืนนั้นพวกเขาไปสายเกินไป เพราะทั้งตำรวจที่คุ้มกันและกิลจงมุนถูกฆ่าตายทั้งหมด และในเวลาเดียวกันชายองก็ได้รับข้อความลาตายจากครอบครัวของเหยื่อเภสัชกรรมบาเบลที่กำลังไปเที่ยว ชายองและวินเชนโซ่จึงรีบไปที่เกิดเหตุ และได้เห็นควันจากกองไฟที่กำลังมอดอยู่ในรถของพวกเขา