สปอยล์ Voice 4 ตอนที่ 4

4

นิคจับกุมกงซูจีได้ในลานจอดรถขณะที่เธอกำลังจะหลบหนี โดยตั้งข้อหาว่าเธอเป็นผู้ต้องสงสัยในการฆาตกรรมลิซ่าโจ เมื่อไปถึงโรงพยาบาล กวอนจูได้ยินเสียงหัวหน้าโดเรียกเธอ เธอจึงวิ่งตามหาเสียงนั้น โดยให้เดเร็คกับแชดลีขึ้นไปก่อน เธอไม่พบใครและเตือนตัวเองว่าหัวหน้าโดตายไปแล้ว ขณะนั้นเองเธอได้ยินเสียงหวีดร้องในหัวพร้อมกับภาพในวัยเด็กที่กำลังหวาดกลัวและวิ่งหนีอะไรบางอย่างในป่า มีเสียงของใครบางคนบอกว่าเธอไม่อาจแยกร่างจากเขาได้เพราะว่าเป็นครอบครัวเดียวกันที่เกิดมาจากคนคนเดียวกัน จากนั้นเธอจึงรีบวิ่งกลับขึ้นตึก โดยที่เซอร์คัสแมนซึ่งหน้าตาเหมือนเธอ แอบมองอยู่ตรงนั้น

กงซูจียอมให้ปากคำโดยมีข้อแม้กับเดเร็คว่าจะไม่ตั้งข้อหาเธอ เธอเล่าว่าก่อนขึ้นเครื่อง เธอไปงานปาร์ตี้วันเกิดที่คลับกับเพื่อน และเสพยาที่เอามาจากอเมริกาไปไม่กี่เม็ดเพราะว่าเธอเครียดเรื่องการเรียน และที่เธอต้องหนีก็เพราะกลัวพ่อจับได้ว่าเสพยา เรื่องทั้งหมดที่เธอเล่าก็ไม่เกี่ยวกับฆาตกรรมใดๆ ทั้งสิ้น จากนั้นเธอก็ให้ดูรูปในโทรศัพท์ซึ่งวันเวลาที่บันทึกไว้ไม่ตรงกับเวลาที่ลิซ่าถูกฆาตกรรม กวอนจูให้นามบัตรกับกงซูจีเผื่อว่าเธอมีข้อมูลเพิ่มเติม และขอให้เธอไปให้ปากคำเรื่องสารเสพติดเพื่ออนาคตของเธอเอง

ตราบใดที่ยังจับคนร้ายไม่ได้ เดเร็คจึงต้องการให้ผู้โดยสารบนเครื่องบินลำนั้นถูกระบุเป็นผู้ต้องสงสัยไว้ก่อน เดเร็คเตือนกวอนจูไปหาหมอเพราะคิดว่าเธอเป็นโรคตื่นตระหนก หลังจากที่เห็นเธอวิ่งตามหาเสียงเรียกของหัวหน้าโด กูกวางซูบอกกวอนจูว่าหากมีอะไรไม่สบายใจ เธอสามารถเล่าให้เขาฟังได้ทุกเรื่อง

เดเร็คเคยถูกพ่อบุญธรรมที่เป็นผู้กำกับอาวุโสทุบตี และลิซ่าต้องลาออกจากวิทยาลัยการแพทย์ก็เพราะพ่อบุญธรรมคนนี้เช่นกัน หลังจากเด็กทั้งสองคนหนีออกจากบ้าน จึงมีการยื่นฟ้องพ่อบุญธรรมข้อหาทำร้ายร่างกายเด็ก ต่อมาเดเร็คและลิซ่าจึงกลับมาใช้นามสกุลโจตามเดิมและอยู่ด้วยกันตามลำพังสองคนพี่น้อง

เดเร็คทบทวนแฟ้มคดีฆาตกรรมต่อเนื่องที่เกิดจากเซอร์คัสแมน ซึ่งลิซ่าน้องสาวของเขาถูกฆาตกรรมราวกับเป็นการลงโทษ เขาตั้งใจว่าจะจับฆาตกรให้ได้และจะทำให้มันต้องเจ็บปวดกว่าเธอเป็นล้านเท่า

ทีมโกลเด้นไทม์มีกำหนดมาปฏิบัติงานร่วมกับหน่วยคอลเซ็นเตอร์ของเกาะบีโมเป็นเวลาหกเดือน ฮันอูจูเจ้าหน้าที่ไซเบอร์และเป็นแฟนคลับของโกลเด้นไทม์ ซึ่งมีเว็บไซต์เป็นของตัวเองแลละใฝ่ฝันอยากเข้าร่วมทีม เขาให้ให้พัคอึนซูดูข้อมูลสำคัญบางอย่างเกี่ยวกับคดีของลิซ่า ซึ่งอีฮยอนมินโพสต์คลิปตัวเองเกี่ยวกับไอเท็มในเกม “เซอร์คัส ปิเอโรต์” ฮันอูจูคิดว่าหากอีฮยอนมินไม่ได้จัดฉาก ก็ต้องเป็นเด็กที่เล่นเกมด้วยกัน เพราะเด็กที่เล่นเกมนี้ ไม่มีใครปกติเลยสักคน จากนั้นพัคอึนซูจึงหาข้อมูลเกี่ยวกับจูบอมแทที่ฆาตกรรมปู่กับย่าของตัวเอง

กวอนจูไปหาแดชิกเพื่อขอให้เขากลับมาร่วมทีมโกลเด้นไทม์ เพราะเธอต้องการคนเชี่ยวชาญพื้นที่บนเกาะในขณะที่ฆาตกรมีความสามารถพิเศษในการได้ยินเหมือนกับเธอ แต่แดชิกปฏิเสธขณะที่ในใจก็ยังคงอาลัยอาวรณ์ทีมโกลเด้นไทม์อยู่เช่นกัน

จากข้อมูลที่ได้มา อึนซูพบว่าจูบอมแทและอีฮยอนมินเล่นเกมเดียวกันที่ชื่อว่า “เซอร์คัส ปิเอโรต์” เธอจึงรีบโทรบอกกวอนจู เดเร็คอาสาตามสืบเรื่องเทเลโน้ตที่คิดว่าเซอร์คัสแมนใช้ติดต่อกับอีฮยอนมิน กวอนจูสัมภาษณ์ฮันอูจูและให้เขาตามหาข้อมูลของผู้เล่นเกม ซึ่งผู้เล่นจะต้องไปถึงเกมระดับยากถึงขั้นฆ่าครอบครัวตัวเองเพื่อให้ผู้เล่นได้เป็นปิเอโรต์ โดยมีอาวุธและวิธีการฆ่าที่ไม่ต่างกับคนโรคจิต แม้กระทั่งอาวุธที่เรียกว่ากากูรีหรือตะขอเหล็กคล้ายเคียวที่ชาวแฮนยอใช้ในน้ำ

โกลเด้นไทม์ได้รับแจ้งเหตุฉุกเฉินขณะที่คุณยายซุนรเยกำลังจะใช้กากูรีทำร้ายโกหัวหน้าชาวประมงที่หาดหมู่บ้านอูมี เพราะคุณยายไม่พอใจที่หัวหน้าหมู่บ้านจะขายที่ทำมาหากินให้กับนายทุน ต่อมามีคนพบศพในหม้อเหล็กก้นทะเลพร้อมกับเครื่องประดับชิ้นหนึ่ง จึงทำให้คุณยายเข้าใจผิดว่าเป็นศพของกาอึนหลานสาวของท่าน ศพที่พบไม่ใช่กาอึนแต่เป็นแชโซยุน ครูสอนดำน้ำที่สนิทกับกาอึน ซึ่งเกี่ยวข้องกับยาเสพติดและมีรอยสักที่มือ ในที่เกิดเหตุหลังจากนำศพขึ้นมา เดเร็คพบพิรุธชาวต่างชาติคนหนึ่งที่มุงดูอยู่บริเวณนั้น ซึ่งกวอนจูได้ยินเสียงแว่วว่าเขากำลังพูดโทรศัพท์กับใครคนหนึ่ง เธอเริ่มเป็นห่วงและสั่งให้ติดตามค้นหากาอึนที่หายตัวไป

กงซูจีโทรหากวอนจูเพราะเธอรู้สึกไม่ปลอดภัย หลังจากที่ได้ยินเสียงเพลงกล่อมเด็กของคุณยายตั้งแต่อยู่บนเครื่องบินและที่บันไดหนีไฟในโรงพยาบาล กวอนจูรับปากว่าจะรีบไปหาเธอ เพียงแค่ไม่กี่นาที ซูจีก็ได้พบกับเซอร์คัสแมนในใบหน้าของกวอนจูซึ่งเล็บสั้นกว่าเมื่อวานและน้ำเสียงก็ไม่เหมือนเดิม ซูจีเริ่มรู้สึกหวาดกลัวและพยายามจะหนีออกจากรถ แต่เซอร์คัสแมนปักเข็มฉีดยาที่เตรียมมาไปที่ซูจีและขับรถพาเธอออกไปจากที่นั่น ขณะที่กวอนจูกำลังขับรถไปหาซูจีและติดต่อเธอไม่ได้..