สปอยล์ Zombie Detective ตอนที่ 1-4
Zombie #1
ชายคนหนึ่ง(ชเวจินฮยอก)ตื่นขึ้นมาพบว่าตัวเองเป็นซอมบี้ ไม่มีความรู้สึกใดๆ เคลื่อนไหวร่างกายได้อย่างเชื่องช้าและไม่สามารถพูดได้
กงซอนจี(พัคจูฮยอน) นักเขียนรายการสืบสวนทางโทรทัศน์ กำลังตามล่าหาตัวซานต้าซึ่งเป็นคนร้ายคดีลักพาตัวและฆาตกรรม เธอไปซุ่มดูที่บ้านหลังหนึ่งและได้พบชายผู้ต้องสงสัย แต่เขาปล่อยหมาให้วิ่งไล่กัดเธอ จนกระทั่งสายสืบชาโดฮยอน(ควอนฮวาอุน)มาช่วย เมื่อรู้ว่าชายผู้นี้ไม่ใช่ซานต้า แต่มีประวัติก่อคดีลวนลามเด็ก ซอนจีจึงทำร้ายร่างกายเขา
ซอมบี้เดินต่อไปเรื่อยๆ เมื่อรู้สึกหิว เขาจะสลบไปและเมื่อตื่นขึ้นมาก็พบว่าตัวเองได้กินสิ่งมีชีวิตเข้าไปแล้ว เขาไม่อยากมีชีวิตเช่นนี้ จึงตัดสินใจกระโดดหน้าผา ถึงแม้อยากตายแค่ไหนก็ตามแต่ก็ไม่สามารถตายได้ เขาไม่รู้ว่าตัวเองกลายมาเป็นซอมบี้ได้อย่างไร และจะกลับไปเป็นมนุษย์ได้อีกหรือไม่ จากนั้นเขาก็เดินต่อไปจนกระทั่งถึงหมู่บ้านแห่งหนึ่ง
ซอนจีกลับไปเอาโทรศัพท์ซึ่งในเสื้อที่ทำตกไว้ และได้พบกับซอมบี้ซึ่งใส่เสื้อของเธอ เขาพยายามปิดบังหน้าตาตนเอง ในขณะที่เธอคิดว่าเขามีอาการติดเหล้าอย่างหนัก เพราะเห็นอาการสั่นเทา เนื้อตัวมอมแมมและไม่พูดจา ระหว่างที่เธอล้วงกระเป๋าเสื้อเพื่อเอาโทรศัพท์กลับคืน เขาได้กลิ่นหอมหวานและพยายามจะกินเธอเป็นอาหาร แต่บังเอิญเธอรับโทรศัพท์ซะก่อน จากนั้นเธอก็ให้เงินเพื่อให้เขาไปอาบน้ำที่ซาวน่า และขอให้รักษาอาการติดเหล้า เขาบอกตัวเองว่าจะไม่ยอมกินคนเด็ดขาด และต้องหาอย่างอื่นกินเพื่อให้อิ่มท้อง จึงคิดว่าจะกินไข่จากรังนก แต่เขาไม่มีแรงแม้กระทั่งจะปาหินขึ้นไปบนต้นไม้ เขาสลบไปอีกครั้งเพราะอดอาหารมาสามวันแล้ว
ซอนจีเล่าให้โบราฟังว่าเธอชายคนหนึ่งและรู้สึกสงสารที่เห็นเขาติดเหล้า จึงให้เงินและเสื้อตัวนั้นแก่เขา ซึ่งเป็นเสื้อของพี่สาวเธอ อีกทั้งเงินเดือนที่ได้รับ เธอยังต้องผ่อนชำระจ่ายค่าทำขวัญให้คู่กรณีที่โดนเธอทำร้ายร่างกายอีกด้วย
เมื่อรู้ว่าคนส่งอาหารเป็นคนจีนที่มาจากเมืองหยันเปียน อีซองรกซึ่งเป็นเจ้าของสำนักงานเวิร์ลคิงส์ จึงคิดจะไปเปิดสาขาที่นั่น เพราะคิดว่าต่อไปสำนักงานของเขาจะเป็นอันดับหนึ่งในเมืองคังริมแทนที่สำนักงานนักสืบของคิมมูยอง เขาจึงชวนคนส่งอาหารให้มาทำงานกับเขาเพราะเห็นว่าพูดได้สองภาษา โดยเสนอที่พักและอาหารให้ฟรี และต่อไปจะเลื่อนให้เขาเป็นผู้จัดการสาขาหยันเปียนอีกด้วย
Zombie #2
ซอนจียังคงพยายามตามหาซานต้า เพื่อนำเรื่องราวออกอากาศให้ได้ เธอรู้สึกผิดเพราะคิดว่ารายการของเธอเป็นสาเหตุให้เกิดคดีเด็กถูกลักพาตัว
ซอมบี้หวังว่าสักวันเขาจะได้กินไส้อย่าง เหมือนรูปในใบปลิวอาหารที่เขาเก็บได้ และซอมบี้อย่างเขาก็มีประสาทรับรู้กลิ่นที่ยอดเยี่ยมโดยเฉพาะกลิ่นของเนื้อ ในคืนนั้นขณะที่คนร้ายกำลังนั่งกินอาหารอยู่กลางป่า เขาไม่รู้ว่าซอมบี้แอบซุ่มดูอยู่และคิดว่าเสียงกิ่งไม้ที่ได้ยินคงเป็นเสียงสัตว์บริเวณนั้น จึงโยนเนื้อหมูไปให้ ซอมบี้รู้ทันทีว่าเป็นเนื้อหมูส่วนขาหน้าและกินใบชาเขียวเป็นอาหาร แม้ว่าตัวเขาเองไม่ชอบกินชาเขียวก็ตาม ระหว่างที่กำลังจะกินเนื้อหมูชิ้นนั้น เขาเห็นคนร้ายลงมือฆาตกรรมชายคนหนึ่งและโยนลงหน้าผา เมื่อเดินลงไปดู เหยื่อได้มอบกุญแจให้เขาก่อนที่จะสิ้นใจ หลังจากช่วยฝังศพแล้ว เขารื้อกระเป๋าดูและพบว่าเหยื่อก็คือนักสืบคิมมูยอง จึงอยากรู้ว่าเขาจะสืบเรื่องราวของตนเองได้หรือไม่
ขณะที่อีแทกยูน ผู้กำกับหนังที่มุ่งมั่นหาข้อมูลเกี่ยวกับซอมบี้เพื่อสร้างหนัง เขาพบข้อมูลว่าตัวแบดเจอร์ถูกกินหัวไปหลายตัว ซึ่งไม่ใช่ฝีมือมนุษย์หรือหมูป่า
ซอมบี้สวมรอยเป็นคิมมูยองและไปที่สำนักงานนักสืบ เมื่อเห็นเนื้อในตู้เย็น เขาจึงรีบกินด้วยความหิวโหย เขาได้รู้ว่านักสืบคิมมูยองกำลังทำคดีคนหายทั้งประเทศ จึงพยายามหาข้อมูล เผื่อว่าจะเจอเรื่องราวของตัวเอง
คิมมูยองใช้ชีวิตอยู่ที่สำนักงานแห่งนั้น แต่ไม่รู้จะหากินได้อย่างไรเมื่อรู้สึกหิว ทันใดนั้นเองเขาก็เห็นนกพิราบเกาะอยู่ที่หน้าต่าง แม้จะเตือนตัวเองว่าการกินนกจะทำให้ดูไม่ดีและยังมีเชื้อโรคเยอะอีกด้วย แต่เขาก็พยายามจับนกกินเพราะไม่ต้องการกินมนุษย์ และเห็นอีซองรกและลูกน้องกำลังแอบดูอยู่ที่สำนักงานฝั่งตรงข้าม ต่อมาคิมมูยองได้เรียนรู้ว่าเขาจะต้องใช้เงินในการซื้อของกิน และต้องหาเงินให้ได้เหมือนมนุษย์ จึงคิดจะหางานทำโดยเลือกงานที่ติดต่อกับมนุษย์น้อยที่สุด
อีแทกยูนพี่เขยของซอนจี บอกกับเธอว่า ที่ภูเขาโชวอล พบซากสัตว์ที่ไม่มีหัว และเขาคิดว่าเป็นฝีมือซอมบี้ เพราะซอมบี้มีจุดอ่อนที่หัว จึงคิดว่าสัตว์เหล่านั้นมีจุดอ่อนเหมือนตนเอง จึงได้กินหัวสัตว์เหล่านั้น
ขณะที่มูยองทำงานพาร์ทไทม์พับกล่อง เขาได้รับข้อความจากพ่อโฮดูเพื่อถามความคืบหน้าของคดี และมีเรื่องขอความช่วยเหลือ ในเมื่อมูยองต้องการเงินและไม่ต้องการทำงานพับกล่อง เขาจึงตอบข้อความว่า ตามหาคน20ล้าน และตามหาสัตว์ 5ล้าน พ่อโฮดูยอมตกลงตามข้อเสนอ มูยองไม่รู้ว่าจะทำงานนักสืบได้อย่างไร และจะพับกล่องเสร็จเมื่อไร เมื่อคิดว่าเงินห้าล้านวอนจะทำให้เขาอยู่ได้สามเดือน จึงหาวิธีที่จะอำพรางใบหน้าซอมบี้และผิวหนังของตนเองโดยใช้บีบีครีมปกปิดริ้วรอย
เมื่อมูยองรู้ว่าพ่อโฮดูคือจุนอูเด็กน้อยเจ้าของสุนัขที่หายไป และให้เงินจำนวน 500 วอนแก่เขา มูยองไม่ต้องการกลับไปมือเปล่า จึงบอกให้จ่ายเพิ่มอีก 4,999,500 วอน แต่จุนอูไม่มีเงินจึงขอเงินมัดจำ 500 คืน มูยองไม่ยอมให้จึงเกิดเรื่องทะเลาะกับจุนอูและเพื่อนๆ ของเขา
เมื่อซอนจีเห็นจุนอูหลานของเธอกำลังทะเลาะกับมูยองละรู้ว่าเขาเอาเงินของจุนอูไป เธอจึงรู้ว่ามูยองไม่ใช่คนแถวนี้และขอดูสิ่งที่เขาถืออยู่ในมือ มูยองบอกตัวเองว่าไม่ต้องกลัว ไม่เช่นนั้นก็จะถูกมนุษย์จับฆ่า จากนั้นเขาก็บอกเธอว่าคนไม่เกี่ยวอย่ายุ่ง ซอนจีขำในคำพูดของเขาระคนกับความโกรธที่เห็นหลานโดนรังแก พีดีจึงเตือนสติไม่ให้เธอก่อเรื่องอีกแต่ขอให้สายสืบชาโดฮยอนมาช่วย แต่ซอนจีมองว่ามูยองเป็นคนโรคจิตและจะหนีไปซะก่อน เมื่อรู้ว่าซอนจีจะพาเขาไปโรงพักและจะต้องมีคนรู้เห็นมากมาย มูยองจึงวิ่งหนีด้วยความกลัว ซอนจีและเด็กๆวิ่งตามไป แต่ต้องหยุดลงเพราะความเหนื่อยในขณะที่ซอมบี้ไม่มีวันเหนื่อย ซอนจีเคยเป็นนักกีฬาขว้างลูกเหล็กมาก่อน เธอจึงใช้หมวกกันน็อคขว้างไปโดนหัวมูยองจนล้มลง
Zombie #3
ฃหลังจากโดนหมวกกันน็อคจนสลบไปนั้น พีดีได้บันทึกภาพวิดีโอไว้และเห็นผิวหนังบริเวณข้อเท้าของมูยอง ซึ่งเขาไม่ได้ทาครีมปกปิดริ้วรอยไว้ ซอนจีพยายามปลุกมูยอง เธอคิดว่าเขาตายแล้วเมื่อเห็นว่าตัวเย็นผิดปกติและหัวใจไม่เต้น ระหว่างทางไปโรงพยาบาล เจ้าหน้าที่พยายามช่วยปั๊มหัวใจแต่ชีพจรของเขาหยุดเดินแล้ว จู่ๆมูยองก็ฟื้นขึ้นมาท่ามกลางความตกใจของทุกคน เมื่อไปถึงโรงพยาบาลและรู้ว่าตัวเองไม่มีประวัติและจะต้องถูกแจ้งตำรวจ มูยองจึงคิดที่จะหนีออกไปให้ได้ หลังจากที่ซอนจีขอโทษและให้นามบัตรแก่มูยองแล้ว เธอก็ไปตามหมอ มูยองจึงฉวยโอกาสนี้หลบหนีไป
ระหว่างทางเดินกลับ มูยองหยุดเดินเมื่อได้ยินอีซองรกตะโกนเรียก ซองรกแปลกใจที่มูยองโกนหนวดและหน้าตาดีขึ้น เขาบอกตัวเองว่า จะต้องลดน้ำหนักให้ได้ เพื่อจะได้หล่อแบบมูยอง มูยองปฏิเสธการจับมือทักทายกับอีซองรกและเดินกลับเข้าสำนักงานโดยไม่พูดอะไร
ซอนจีขอร้องฮยองชอลเพื่อให้สัมภาษณ์ในรายการของเธอซึ่งใกล้จะออกอากาศ เพราะเขาคือพยานในคดีซานต้า แต่ฮยองชอลปฏิเสธ ซอนจีจึงพยายามทุกวิถีทางจนเขาเปลี่ยนใจ
มูยองรู้สึกหิวจึงออกไปหาเหยื่อข้างนอก ขณะที่เขากำลังจะก้มลงไปกัดคอชายคนหนึ่ง ชายคนนั้นหันมาซะก่อน มูยองจึงแกล้งอ้าปากค้างและท่องเสียงสระภาษาอังกฤษจนชายคนนั้นเดินจากไป มูยองบอกตัวเองให้อดกลั้น จะได้ไม่ต้องกินมนุษย์หรือก่อคดีฆาตกรรม จากนั้นเขาก็พบสุนัขที่ชื่อโฮดูโดยบังเอิญ จึงนำป้ายชื่อที่ปลอกคอไปให้จุนอูเพื่อให้เตรียมเงินมาแลกกับสุนัข
คิมโบราเพิ่งเปิดร้านขายเครื่องในและเปิดให้ชิมฟรีในวันแรก มูยองอยากไปที่นั่น แต่ว่าครีมบีบีปิดริ้วรอยหมดไปแล้ว จึงใช้ครีมกันแดดที่เซลส์เครื่องสำอางลืมไว้ มูยองพอกครีมจนหน้าเป็นสีขาวและไปถึงที่ร้านพร้อมกับอีซองรก แต่ทว่าหมดเวลาชิมฟรีพอดี โบราจึงบอกให้พวกเขาเดินไปสั่งอาหารในร้านของเธอ มูยองไม่มีเงินจึงคิดจะกลับ เมื่อเห็นฮันกยอลซึ่งแต่งหน้าเป็นซอมบี้เพื่อโปรโมตร้านให้โบรา เขาจึงคิดว่าเป็นพวกเดียวกับตนเอง มูยองจึงสวมรอยเข้าทีมและเต้นกับพวกเขาที่หน้าร้าน เพื่อจะได้กินต้มเครื่องในฟรีที่โบราเตรียมไว้ให้
ฮยองชอลให้สัมภาษณ์ว่า ในคืนนั้นเขาออกไปตกปลา และเห็นชายคนหนึ่งนั่งตกปลาอยู่ข้างๆ เขาจึงหันไปขอยืมไฟแช็ค ชายคนนั้นมีท่าทางแปลกๆ และไม่พูดอะไร แต่เขาเห็นแววตาและจดจำใบหน้าได้ แม้จะผ่านมาหนึ่งปีแล้วก็ตาม หลังจากนั้นซอนจีและชาโดฮยอนก็ไปแสดงความยินดีกับโบราที่ร้าน
Zombie #4
ฮันกยอลและเพื่อนๆ ของเขาปล่อยให้มูยองเต้นอยู่คนเดียวและแปลกใจที่เขาไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อย จากนั้นพวกเขาก็เข้าไปรับค่าจ้างและซุปเครื่องในจากโบรา ในขณะที่ซอนจีและโดฮยอนกำลังกินอาหารอยู่ในร้าน ซอนจีกังวลว่าทำไมมูยองไม่ติดต่อกลับมาหลังจากที่โดนเธอปาหมวกกันน็อคใส่หัว โบราแปลกใจที่ไม่เห็นมูยองและต้องตกใจเมื่อได้ยินเสียงร้องของแม่ครัวที่เห็นมูยองกำลังกินเครื่องในสด โดฮยอนวิ่งตามไปดูและเกิดการต่อสู้กับมูยอง แต่โบราห้ามไว้ มูยองจึงเดินปิดหน้าออกจากร้านและสวนทางกับซอนจีที่กำลังเดินเข้าไปดูเหตุการณ์
หลังจากต่อสู้กับโดฮยอนแล้ว มูยองบอกตัวเองว่าเขาจำเหตุการณ์ในอดีตได้ แต่โดฮยอนกลับคิดว่าการต่อสู้ของมูยองที่เคลื่อนไหวอย่างรวดเร็วและโจมตีเข้าจุดตาย มันคือทักษะการต่อสู้เพื่อสังหาร ในขณะที่ฮันกยอลเพิ่งบอกโบราว่า เด็กอีกคนหนึ่งที่ต้องมาเต้นซอมบี้วันนี้ลาป่วย ทุกคนจึงสงสัยว่ามูยองเป็นใคร
มูยองวิ่งเข้าป่าและรู้ว่าสัญชาติญาณซอมบี้ได้ตื่นขึ้นแล้ว เมื่อฟื้นขึ้นมาและพบซากกวางที่เขากิน เขาจึงถามตัวเองว่าจะต้องใช้ชีวิตแบบนี้ไปอีกนานเท่าไรและจะกลับไปเป็นมนุษย์ได้หรือเปล่า
มูยองกลับมาที่สำนักงานและออกกำลังกายอย่างหนัก เพื่อจะกลับมาเป็นมนุษย์ให้ได้ โดยที่วังเวอีลูกน้องของอีซองรกกำลังแอบส่องกล้องทางไกลดูและเห็นริ้วรอยตามตัวของมูยอง
ขณะที่มูยองคิดไม่ออกว่าใช้ท่าต่อสู้กับโดฮยอนแบบนั้นได้อย่างไร จากนั้นก็บีบครีมบีบีที่เหลือในหลอดเพื่อทาใบหน้า ก่อนออกไปข้างนอกเขาได้กลิ่นอะไรบางอย่าง ซอนจีเพิ่งรู้จากจุนอูว่ามูยองเป็นนักสืบเอกชน เธอจึงไปหาเขาเพราะไม่สบายใจเรื่องหมวกกันน็อค แต่เขารู้สึกรำคาญที่เธอตอแยและถามจุกจิกไม่เลิกจนออกปากไล่เธอกลับไป ซอนจีจึงฝากสัญญาไว้ให้เขาเซ็น เพื่อรับรองว่าสุขภาพของเขาไม่เป็นอะไรจริงๆเพื่อหลีกเลี่ยงค่าใช้จ่าย
มูยองเกิดอาการคุ้มคลั่งเมื่อได้เห็นภาพเด็กหญิงโซรีในข่าวคดีลักพาตัวเมื่อหนึ่งปีก่อน ซึ่งเธอหายสาบสูญไปที่บ่อตกปลาแห่งหนึ่งและคนร้ายมีรอยแผลเป็นที่แก้ม พ่อของเด็กตกเป็นผู้ต้องสงสัยว่าอาจมีส่วนเกี่ยวข้อง พยานฮยองชอลถูกแทงที่ด้านหลังและคิดว่าต้องเป็นฝีมือคนร้ายในคดีนี้ พีดีรายการและซอนจีไปเยี่ยมที่โรงพยาบาลและขอโทษที่เป็นต้นเหตุ
มูยองได้รับความกดดันเรื่องเงิน เพราะค้างค่าเช่าห้อง เขาจึงคิดหาเงินจากสัญญาที่ซอนจีทิ้งไว้ให้ ซอนจีเสียใจกับสิ่งที่เกิดขึ้นกับฮยองชอลเพราะรายการของเธอ เธอคิดว่าจะไม่ทำงานนี้อีกต่อไปแล้วและดื่มจนเมามาย ขณะที่มูยองนำสัญญาไปซุ่มดูซอนจีที่ร้านและเห็นกลุ่มคนที่ไม่พอใจรายการของเธอพาขึ้นรถตู้ เขาจึงรีบตามไปและยืนขวางหน้ารถจนถูกชนกระเด็น ขณะที่ทุกคนในรถกำลังตกใจ ซอนจีถือโอกาสนั้นลงมาอ้วก มูยองฟื้นขึ้นมาและกระโดดเกาะรถจนตกลงมาอีกครั้ง เขานำสัญญาให้ซอนจีดูและบอกว่า เขามีปัญหาทั้งสมอง ลำไส้และหัวใจ แต่ซอนจีที่อยู่ในอาการมึนเมา เธอฟังไม่รู้เรื่องและเซถลาซบอกมูยองและบอกว่าอบอุ่น แต่มูยองไม่เข้าใจคำพูดของเธอ..